เจาะลึกปัญหาที่คน “ตาชั้นเดียว” ต้องเจอไม่ใช่แค่เรื่องความสวย แต่เกี่ยวกับการมองเห็น!
หลายคนอาจมองว่า “ตาชั้นเดียว” (Monolid) เป็นเพียงลักษณะทางพันธุกรรมที่แตกต่างกันอย่างหนึ่งเท่านั้น ซึ่งจริง ๆ แล้วก็ใช่ค่ะ แต่สำหรับคนที่มีภาวะตาชั้นเดียวบางราย ลักษณะทางกายภาพนี้สามารถนำมาซึ่งปัญหาที่ซับซ้อนกว่าที่คิด ไม่ได้เป็นแค่เรื่องของความสวยงาม หรือต้องพึ่งการแต่งหน้าอย่างเดียว แต่ยังส่งผลกระทบต่อ คุณภาพการมองเห็น และ สุขภาพของดวงตา ในระยะยาวได้
หากคุณเป็นคนหนึ่งที่ต้องเลิกคิ้วมองอยู่เสมอ หรือรู้สึกว่าดวงตาดูบวมและหนักอึ้งตลอดเวลา บทความนี้จะมาช่วยเจาะลึก 3 ปัญหาหลักที่คนตาชั้นเดียวมักพบเจอ และทำไมการปรึกษาศัลยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจึงเป็นทางออกที่สำคัญค่ะ
ปัญหาที่คนตาชั้นเดียวต้องเผชิญในชีวิตประจำวัน
ปัญหาที่เกิดจากโครงสร้างเปลือกตาชั้นเดียว มักจะเกี่ยวข้องกับการที่มีผิวหนังและไขมันบริเวณเปลือกตาที่ค่อนข้างเยอะ หรือมีความหนา ทำให้เกิดแรงกดและปัญหาในการทำงานของกล้ามเนื้อตา
1. ปัญหาด้านการมองเห็น (Functional Problem)
ปัญหาการมองเห็นเป็นประเด็นที่สำคัญที่สุดที่มักถูกมองข้าม
การหดตัวของตา (Ptosis-like Effect): ในคนที่มีภาวะตาชั้นเดียวร่วมกับไขมันหรือผิวหนังที่หนามากบริเวณเปลือกตา หรือมีภาวะกล้ามเนื้อตาอ่อนแรงร่วมด้วย อาจทำให้เปลือกตาบนปิดทับลงมาในระดับที่มากกว่าปกติ
เปลือกตาเปิดได้ไม่เต็มที่: เมื่อเปลือกตาไม่สามารถถูกเปิดได้อย่างเต็มที่และสมบูรณ์ จะทำให้ ขอบเปลือกตาบดบังทัศนียภาพ ทำให้การมองเห็นด้อยลง และต้องพยายาม ใช้กล้ามเนื้อหน้าผากในการเลิกคิ้ว เพื่อช่วยให้เปิดเปลือกตาได้กว้างขึ้น ซึ่งการทำพฤติกรรมนี้บ่อย ๆ อาจทำให้เกิดรอยย่นบริเวณหน้าผากตามมาได้
2. ปัญหาขนตาทิ่มตา (Trichiasis)
ภาวะแนวขนตาทิ่มลง: ลักษณะของตาชั้นเดียวที่มีเปลือกตาหนาและไม่มีรอยพับชัดเจน มักจะทำให้เกิดแรงกดดันบริเวณขอบตา ทำให้ แนวขนตาถูกดันให้ทิ่มลงด้านล่าง หรือ ม้วนเข้าด้านใน จนทิ่มแทงเยื่อบุตาขาวหรือกระจกตา
ผลกระทบ: ภาวะขนตาทิ่มตาจะทำให้เกิดอาการระคายเคืองตาตลอดเวลา แสบตา น้ำตาไหล และหากปล่อยไว้เป็นเวลานาน อาจทำให้เกิดปัญหาแผลที่กระจกตา การติดเชื้อ หรือส่งผลต่อการมองเห็นที่ชัดเจนได้
3. ปัญหาด้านความมั่นใจและภาพลักษณ์
ตาดูบวมตลอดเวลา: สำหรับคนตาชั้นเดียวที่มีไขมันบริเวณเปลือกตามาก ใบหน้าอาจดูเหมือนคนอดนอนหรือตาบวมอยู่ตลอดเวลา ทำให้ใบหน้าดูเหนื่อยล้า ไม่สดใส
ขาดมิติและดูล้า: การไม่มีรอยพับของเปลือกตาทำให้ดวงตาดูไม่มีมิติ และต้องใช้การเลิกคิ้วในการมอง ซึ่งอาจทำให้เกิดความเครียดบริเวณกล้ามเนื้อหน้าผากและเสียบุคลิกภาพในที่สุด
แต่งหน้ายาก: การแต่งตาหรือการติดขนตาปลอมอาจทำได้ยาก เนื่องจากเปลือกตาที่หนาหรือหนักทำให้การลงสีอายแชโดว์หรือการกรีดอายไลเนอร์ถูกบดบังไปเกือบทั้งหมด
การทำตาสองชั้น ไม่ใช่แค่ “สวย” แต่คือการ “แก้ปัญหา”
การทำตาสองชั้นจึงไม่ใช่แค่หัตถการเพื่อความงามเท่านั้น แต่ยังเป็น การผ่าตัดเพื่อแก้ไขการทำงานของดวงตา (Functional Surgery) สำหรับผู้ที่มีปัญหาการมองเห็นหรือขนตาทิ่มตา
ศัลยแพทย์จะทำการสร้างรอยพับของเปลือกตาขึ้นใหม่ และในขณะเดียวกันก็สามารถ กำจัดไขมันและผิวหนังส่วนเกิน ที่เป็นสาเหตุของการมองเห็นที่ด้อยลงออกไปได้ด้วย
ดวงตาเปิดได้เต็มที่: เมื่อมีตาสองชั้นที่ชัดเจน จะช่วยให้กล้ามเนื้อตาทำงานได้ดีขึ้น เปลือกตาเปิดได้กว้างขึ้น ทำให้การมองเห็นดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
แก้ปัญหาขนตาทิ่ม: การสร้างรอยพับใหม่จะช่วยพลิกแนวขนตาให้ชี้ออกไปด้านนอกตามปกติ แก้ปัญหาขนตาทิ่มตาได้อย่างถาวร
เพิ่มความมั่นใจ: ใบหน้าดูสดใส มีมิติ และไม่ต้องกังวลกับปัญหาตาบวมหรือต้องเลิกคิ้วอีกต่อไป
ค้นพบเทคนิคที่ใช่สำหรับคุณ
ในปัจจุบัน มีเทคนิคการทำตาสองชั้นที่หลากหลาย ซึ่งออกแบบมาเพื่อแก้ไขปัญหาเฉพาะจุดของคนตาชั้นเดียว เช่น การกรีดสั้น การกรีดยาว หรือการแก้ไขกล้ามเนื้อตาอ่อนแรง (Ptosis Correction) ร่วมด้วย
ดังนั้น หากคุณกำลังประสบปัญหาตามที่กล่าวมาข้างต้น และอยากรู้ว่า การทำตาสองชั้นด้วยเทคนิคไหนดีที่สุดสำหรับคุณ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่สวยงามและแก้ไขปัญหาการใช้งานได้อย่างสมบูรณ์
อย่าปล่อยให้ปัญหาตาชั้นเดียวบั่นทอนความมั่นใจและการมองเห็นของคุณต่อไปเลยค่ะ!
✨ อยากรู้ทำตาสองชั้นเทคนิคไหนดี เพื่อแก้ปัญหาที่ตรงจุดที่สุด? ทักเลย! คลิกเลย !
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือนัดหมายจองคิว เพื่อปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ได้ทาง Inbox หรือตามช่องทางนี้ได้เลยค่ะ
Hotline : 091-796-2323
Line : @windshospital
ที่ตั้ง : แยกกองบิน 21 อุบลราชธานี
